วันพุธที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

How to Install ownCloud 9 on CentOS & RHEL

ownCloud provides data access using web interface. It also provides options to sync and share across devices—all under your control. Using ownCloud we can easily implement restrictions on file (ACLs) per user. ownCloud provides its desktop clients (Windows, MAC, Linux) as well as mobile apps (Android and iPhone) to keep our data sync on your device.
Features of ownCloud:
- ownCloud provides data to store on external storage like Dropbox, S3, Google Docs etc.
- ownCloud maintains files previous versions, so that we can recover from any accidental delete.
1. ownCloud provides data accessibility through android, iOS and desktop clients.
Steps to Install ownCloud 9 on CentOs / RHEL 7 Server :
Server Requirements
Minimum RAM required by ownCloud Software : 128 MB
Recommended RAM required by ownCloud : 512 MB
You can use RAM according to your requirement or server resources usage or users activity.

Package or Software Requirements
⇒  Server OS :  Best recommended OS is  RHEL 7 ( Red Hat Enterprise Linux 7) or use Linux latest OS, Ubuntu 12.04 , 14.04, 14,10 LTS version.
⇒ Web Server : Apache 2
⇒ Database Server : MySQL / MariaDB 5.x, Oracle 11g, PostgreSQL
⇒ PHP 5.4+ Required

Step install.  (can copy & past) Start ownCloud Web Installer
yum -y install wget mariadb-server php-mysql
yum -y update
rpm --import https://download.owncloud.org/download/repositories/stable/CentOS_7/repodata/repomd.xml.key
wget http://download.owncloud.org/download/repositories/stable/CentOS_7/ce:stable.repo -O /etc/yum.repos.d/ce:stable.repo
setenforce permissive
systemctl start mariadb
systemctl enable mariadb
yum clean expire-cache
yum -y install owncloud
mkdir /data
chown -R apache:apache /var/www/html/owncloud
chown -R apache:apache /data
firewall-cmd --zone=public --add-port=80/tcp --permanent
firewall-cmd --zone=public --add-port=443/tcp --permanent
firewall-cmd --reload
systemctl start httpd
systemctl enable httpd

# mysql -u root -p
Enter password:

mysql> CREATE DATABASE owncloud;
mysql> GRANT ALL ON owncloud.* to 'owncloud'@'localhost' IDENTIFIED BY 'p@ssw0rd';
mysql> FLUSH PRIVILEGES;
mysql> quit

End.


Now access ownCloud directory on web browser as below. Change localhost with your server ip address or fqdn.
 http://localhost/owncloud/
Enter new admin credentials to create admin account and provide location of data folder.
owncloud-setup-1
Now slide your page down and input the database credentials and click on Finish Setup.
owncloud-setup-2
After completing setup you will get admin dashboard. Where you can create user, groups, assigned them permissions etc.
owncloud-after-login

วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2558

วิธีแฟลชกลับรอมศูนย์ LG G3 D855

วิธีแฟลชกลับรอมศูนย์ LG G3 D855
วิธี Flash Rom LG G3 D855

Link รวม เฟิร์มแวร์ของ LG G3
ถ้าเครื่องเราเป็นเครื่องศูนย์ประเทศไทย
พอกดเข้าไปให้หาที่ Thailand 
แล้วเลือกว่าต้องการเวอร์ชั่นไหน
ด้านบนสุดจะเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดนะ
ไฟล์จะเป็นนามสกุล .kdz



โปรแกรมที่ต้องใช้
1. โหลด LG PC Suite ลงในคอมพิวเตอร์ (Windows)
จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องไดรเวอร์สำหรับ G3

1.1 หากมีปัญหาเรื่อง driver หลังจากลง pc suite
ให้ลอง LGUnitedMobileDrive

2. โหลดโปรแกรม LG Flash Tool 2014.zip สำหรับใช้ในการ flash 

ขั้นตอนการ flash
1.ให้เข้า Download Mode วิธีคือ ให้-ปิดเครื่องให้สนิทเสร็จแล้วกดปุ่ม เพิ่มเสียง ค้างไว้แล้วเสียบสาย USB ต่อกับคอมและมือถือ
ที่มือถือจะขึ้นว่า Firmware Update แปลว่ามันพร้อมแล้วว!!


2.extract(แตกซิบ) ไฟล์ LG Flash Tool 2014 ออกมา แล้วจะได้ folder "LG Flash Tool 2014"


3.ให้เปิด lgflashtool2014.exe แล้วกด select kdz file
ให้เลือกไฟล์ kdz ที่เราโหลดมา ส่วนค่าอื่นไม่ต้องปรับใดๆทั้งสิ้น
แล้วกดปุ่ม CSE Flash (ข้อมูลในเครื่องจะหายทุกอย่างนะครับ)



4.พอเข้ามาหน้าจอ Read phone information ก็กด Start

5.หลังจากนั้นจะมี Popup เด้งขึ้นมา ให้เลือก English (เปลี่ยนแค่ช่องเดียว) แล้วกด OK

6.และมันจะขึ้นหน้าต่างแบบนี้ ให้เรารอจนเสร็จ เครื่องจะมีการรีบูทตัวเอง 2 ครั้ง


ส่วนที่มือถือมันจะกำลังโหลด ให้ รอ ร๊อ รอ เป็นอันเสร็จ


จบ.


รวบรวมข้อมูลแล้วมาสรุปให้เข้าใจง่ายขึ้น
โดยอ้างอิงข้อมูลมาจาก
LG G3 Thailand Club http://goo.gl/6O7Cv6 และ gsmhosting.com 

[ROM][Jun 06] -=- CloudyG3 2.3 -=- [D850/1/2/5 F400S/L/K] by Cloudyfa








  • Based on stock D855 ROM
  • Stock Kernel
  • Aroma installer
  • SuperSU
  • Busybox + runparts
  • init.d support
  • Debloated
  • AdAway host file
  • Latest GApps
  • LG G4 Camera (FHD 60 - SloMo)
  • Buttons Combination
  • Brightness and Volume toggle
  • Full lockscreen effects
  • Calling Recorder
  • Sharpening value changer
  • ViPER4Android




  • Updated to D855 20P system
  • Updated all System apps
  • Ported G4 UX4.0
  • Ported G4 Camera
  • Added Flashlight toggle
  • Added NetworkMode toggle
  • Added Google Docs
  • Removed ThinkFree Viewer
  • Removed T-Action
  • Removed Plug-n-Pop










XDA:DevDB Information
-=- CloudyG3 -=- [D850/1/2/5 F400S/L/K], ROM for the LG G3 

Contributors
Cloudyfa
ROM OS Version: 5.0.x Lollipop

Version Information
Status: Stable

Created 2014-10-25
Last Updated 2015-06-06
Attached Thumbnails
Click image for larger version

Name: Screenshot_01.png
Views: 34434
Size: 120.3 KB
ID: 3350619   Click image for larger version

Name: Screenshot_02.png
Views: 34112
Size: 204.0 KB
ID: 3350620   Click image for larger version

Name: Screenshot_03.png
Views: 33420
Size: 46.8 KB
ID: 3350621   Click image for larger version

Name: Screenshot_04.png
Views: 30014
Size: 76.4 KB
ID: 3350622   Click image for larger version

Name: Screenshot_05.png
Views: 32304
Size: 42.6 KB
ID: 3350623   Click image for larger version

Name: Screenshot_06.png
Views: 29342
Size: 35.9 KB
ID: 3350624   Click image for larger version

Name: Screenshot_07.png
Views: 32546
Size: 63.4 KB
ID: 3350625  

วันพุธที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2558

VDI



VDI สิ่งที่คนเริ่มได้ยินกันติดหู แต่ก็มีหลายคนยังไม่เข้าใจ วันนี้เลยหยิบยกมาเป็นหัวเรื่องกันหน่อยว่ามันคืออะไร มันมาได้อย่างไร ควรจะใช้งานไหม 

กำเนิด VDI

ในยุคที่ IT มีผลอย่างมากต่อองค์กร หรือ แม้กระทั้งต่อชีวิตประจำวัน มี Data เกิดขึ้นมากมายในแต่ละวัน จนเขาเรียกๆกันว่า Big Data ซึ่งก็คงปฎิเสธไม่ได้ถึงความสำคัญของ Data ไม่ว่า Data นั้นจะอยู่ตรงไหนก็ตาม โลกหมุนเร็วขึ้น องค์กรแต่ละองค์กรต้องปรับ ต้องเปลี่ยนอะไรที่ไวขึ้น ทันต่อสถานการณ์ ทันต่อเหตุการณ์ จึงเป็นเหตุให้เกิด Solution ที่เรียกว่า VDI 
VDI เกิดจากปัญหาที่เกิดขึ้นในองค์กรว่า Computer ส่วนบุคคล หรือเรียกว่า PC นั้น มีการทำงานที่อิสระ แม้จะมีการทำ File Share ในองค์กร แต่ก็มี Data ไม่น้อยอยู่ใน PC แต่ละเครื่อง ปัญหาหนักของ PC ก็คือการ Backup 
ต่อมาก็คือปัญหา Resource เพราะแต่ละคนในองค์กรใช้งานแตกต่างกัน บางคนต้องการพลังเครื่องมากๆ บางคนต้องการพลังเครื่องน้อยๆ บางคนใช้งานนิดหน่อย แต่ต้องซื้อเครื่องซะแรงเกินกว่าการใช้งาน นั้นก็เลยทำให้เกิด VDI 
VDI ตัวย่อเก๋ๆมาจากตัวเต็มว่า Virtual Desktop Infrastructure 

แล้ว VDI ทำงานอย่างไร
VDI ถ้าพูดง่ายๆมันก็คือการเอา Server มาทำงานเป็น Desktop หลายๆเครื่อง แล้ว Backup บริหารจัดการจากศูนย์กลาง นั้นเอง 
สิ่งที่ VDI พยายามทำก็คือ 1. การ Optimize Resource แทนที่จะซื้อ PC แล้วใช้งาน Resource ที่เหลือบ้าง ขาดบ้าง ก็สามารถ Customize resource ได้ตามความต้องการ 2. การ Backup Desktop ทุกตัว (ถ้าต้องการ) เหตุที่บอกอย่างนี้ ก็เพราะว่าบางงาน VDI ก็นำไปใช้ในห้อง Lab ที่ต้องการให้ใช้เพียงชั่วคราว เช่น ห้อง Lab นักศึกษาที่เลิกเรียนก็ Clear เครื่องนับ 1 ใหม่ 

VDI ไม่ได้เกิดมาเพื่อประหยัด แต่เกิดมาเพื่อช่วยบริหารจัดการ
หลายคนอาจจะเริ่มมองว่าทำแบบนี้ก็คงประหยัดขึ้นสิ แต่จริงๆแล้วนั้นไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะการทำ VDI นั้นต้องมีทั้ง License VDI มีทั้ง Thin Client ที่ใช้ Remote เข้าใช้งาน VDI แต่ข้อดีของ VDI หลักๆคงเป็นเรื่องการบริหารจัดการ Resource มากกว่า แต่ถ้ามองว่า Desktop ทุกตัวมี UPS , Backup ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าอาจจะประหยัดบ้าง ใช้คำว่าบ้างนะครับ เพราะ License VDI ไม่ใช่ย่อยเลย แฮะๆ หรือหากมองมุมว่าสามารถสร้าง Desktop มาได้เลยในระบบของเรา โดยไม่ต้องมาจัดซื้อ จัดจ้าง รอ PC มา รอ IT Install โปรแกรม ก็อาจจะประหยัดไปได้หลายในเชิงปริมาณของเวลา แล้วอาจจะทำให้ IT Support ในบริษัทมีน้อยลง ทำงานน้อยลง ก็อาจจะตอบโจทย์ได้เรื่องความประหยัดที่จับต้องเป็นตัวเลขที่ยากหน่อย แต่ก็ประหยัดได้จริง 

จะทำ VDI ต้องมีอะไรบ้าง
  1. SERVER Infrastruture เหตุที่ต้องบอกแบบนี้เพราะว่า จริงๆ Server ตัวเดียวก็สามารถ หากจะดีๆหน่อยก็ต้องมี Storage ดังนั้น ใหญ่ เล็ก ดีไม่ดี ก็แล้วแต่เราจะกำหนดในตรงนี้
  2. Client : อาจจะเป็น PC เก่า หรือว่า Thin Client ก็ได้เช่นกัน ไว้ remote เข้าไปสู่ Desktop นั้นเอง หรือจะใช้เป็นพวก Tablet iPad พวกนี้ก็ได้หมดเช่นกัน หรืออะไรก็ได้ที่มี Browser เพราะรุ่นใหม่ๆสามารถเข้า VDI ผ่าน Browser ได้หมดแล้ว
  3. License : ส่วนนี้สำคัญเพราะเป็นส่วนของการบริหารจัดการทุกสิ่งทุกอย่าง สำหรับค่า License ถ้านับเอาคร่าวๆง่ายๆก็ตก User ละ 12,000 โดยประมาณนะครับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ Version ค่าเงินบาท แต่เคาะแบบง่ายๆ ดังนั้นมันเลยทำให้เห็นว่า ทำไม VDI ไม่ได้ประหยัดเงินเพราะค่า License เราซื้อ PC ได้ตัวนึง แต่นั้นแหละครับบอกแล้วว่ามันเกิดมาเพื่อบริหารจัดการ

วันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เพื่อน ๆ  คงเจอไวรัส “วาดภาพที่ง่าย one click >> https://www.facebook.com/xxxxxxx” ผมเองก็เพิ่งเจอวันนี้ เอง   ที่ดูเหมือนจะเป็นแอพ Facebook ที่ให้เราไปวาดภาพง่ายๆ กันมาบ้างแล้วใช่ไหมละครับ แต่ในความเป็นจริงแล้วถ้าเพื่อนคลิกที่ลิงค์ “วาดภาพที่ง่าย one click >> https://www.facebook.com/xxxxxxx” ดังกล่าว มันจะเด้งไปที่หน้าเพจ Facebook ปลอมที่มันสร้างขึ้นเอาไว้เพื่อหลอกเพื่อนๆ โดยทำทีเหมือนเพื่อนๆ Log out ออกจาก Facebook


แต่ถ้าใครเผลอ Log in บนหน้า Facebook ที่มันทำขึ้นมาเพื่อดักพาสเวิร์ดโดยเฉพาะแล้วละก็ เท่ากับเพื่อนๆ ให้มันขโมยทั้ง พาสและไอดีของเราไป โดยที่เราตั้งใจจะกรอกให้มันเองครับ ซึ่งนั่นก็มีความเสี่ยงมากๆที่เพื่อนๆ จะโดนแฮก Facebook เพราะผู้ไม่หวังดีรู้รายละเอียด Log in ของ Facebook เราหมดแล้ว โดยวิธีการเบื้้องต้นในการแก้ไขนั้น

- อันดับแรกให้เพื่อนๆ เปลี่ยนพาสเวิร์ดของ Facebook ในทันทีถ้ารู้ว่าตัวเองได้กรอกชื่อเฟสและพาสไปแล้ว

- อันดับสองให้เพื่อนๆ ลองมอนิเตอร์หรือหมั่นดู Activity Log ครับว่า Facebook ของเราไปโพส Comment อะไร หรือไป Like อะไรเพจไหนบ้างโดยที่เราไม่ได้กดหรือไม่

- ถ้าเช็ค Activity Log แล้วไม่มีการเคลื่อนไหวแปลกๆ ก็ค่อนข้างที่จะมั่นใจได้เลยครับว่า Facebook ของเรานั้นยังปลอดภัยอยู่ครับผม แต่ถ้าไปกด Like เพจไหน หรือกดแอพ Facebook แปลกๆโดยอัตโนมัติแล้วละก็ นั่นก็คือเพจที่ไม่ประสงค์ดีครับให้รีบกด Unlike โดยทันที เท่านี้ก็น่าจะหายแล้วนะครับ

- แต่อย่างไรก็ตามถ้าเพื่อนๆ ไม่สามารถ Log in เข้า Facebook ได้เลยก็สามารถกู้รหัสผ่าน เบอร์โทรศัพท์ หรืออีเมลที่ได้ลงทะเบียนไว้กับ Facebook ก็ได้เช่นกันครับ (แต่มีข้อแม้ว่า Hacker จะยังไม่เปลี่ยนแปลงข้อมูลของเพื่อนๆนะ) ซึ่งถ้าเรามีวิธีแก้ไขอื่นๆหรืออัพเดทจะมารีบเพิ่มเติมให้เพื่อนๆ ชาว NotebookSPEC ทราบทันที หรือถ้าเพื่อนๆ มีข้อมูลเพิ่มเติมก็อย่าลืมมาแชร์กันนะครับ


Activity Log


ตรวจดู Activity Log ว่ามีอะไรผิดปกติไหม  

 


 

โดยสุดท้ายนี้ก็ขอเตือนเพื่อนๆ อีกครั้งนะครับไม่ว่าจะใน Facebook หรือ Social Media รวมไปถึงเว็บไซด์ต่างๆ ก่อนที่จะกด Like หรือดาวน์โหลดและลงอะไรก็ควรที่จะมั่นใจ และอ่านดูให้รอบคอบก่อนว่าสิ่งนั้นไม่ใช่อันตรายครับไม่อย่างนั้นจะส่งผลต่อเฟสบุ๊ค คอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลสำคัญๆได้ครับ

 

ที่มา : notebookspec.com

วันอังคารที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2557

วิธีตรวจสอบความเสถียรของสัญญาณ ADSL

การใช้งานอินเทอร์เน็ตในระดับ SOHO (Small Office/Home Office) ทั่วไป ที่เราใช้งานผ่าน DSL แล้วเกิดอาการหลุดหรือใช้งานได้ช้า โดยปกติก็จะมีการตรวจสอบในส่วนที่เป็น Internal LAN ว่ามีการใช้งานผิดปกติหรือไม่ เช่น การใช้งาน Bandwidth สูงบางเครื่อง หรือการใช้งานผ่านการดาวน์โหลดแบบ P2P เป็นต้น แต่ถ้าเป็นการเชื่อมต่อที่เป็น External ล่ะเราจะสามารถตรวจสอบอะไรได้บ้างที่สามารถยืนยันได้ว่าDSL ที่เราใช้มันไม่เสถียรจริงๆ เราลองมาดูวิธีการตรวจสอบในส่วนของการเชื่อมต่อระหว่าง ISP กับ DSL CPE (External) ตามนี้เลยครับ 


ปกติแล้วสัญญาณ ADSL จะมีค่ามาตรฐานในการวัดคุณภาพสาย เรียกว่า ค่า SNR และค่า Line Attennuation
  • ค่า SNR (Signal to Noise Ratio) จะเป็นตัวบอกถึงความแรงของสัญญาณ ADSL เมื่อเปรียบเทียบกับสัญญาณรบกวน หน่วยเป็น เดซิเบล (dB) 
    • ลอง นึกภาพตามง่ายๆครับ ให้เราและเพื่อนไปอยู่ในห้องเงียบๆห้องนึงแล้วคุยกัน เราและเพื่อนก็จะได้ยินเสียง (Signal) กันชัดเจนใช่ไหมครับ แต่ถ้าเกิดเปิดวิทยุหรือทีวีขึ้นมาให้เกิดเสียงแทรกขึ้น (สัญญาณรบกวน : Noise)เมื่อเราคุยกับเพื่อนก็จะได้ยินเสียงกันไม่ชัดเจนละ ถ้าต้องการจะให้ชัดเจนก็ต้องตะโกนให้ดังขึ้น (Tune-up Signal Strength) หรือไม่ก็มายืนใกล้ๆกัน เพื่อที่จะได้คุยกันรู้เรื่องในขณะที่มีเสียงอื่นๆเข้ามาแทรก
ค่าอ้างอิงของ SNR (dB) 
0 - 5 dB = แย่, bad, no sync/intermittent sync 
8 - 13 dB = ปานกลาง - อาจจะไม่จับสัญญาณบางครั้ง (average - and no sync issues) 
14 - 22 dB = ดีมาก (very good) 
23 - 28 dB = ยอดเยี่ยม (excellent) 
29 - 35 dB = สุดยอด (rare) 

  • SNR Margin หรือ SNRM หรือ Noise Margin หรือ Receive Margin ส่วนใหญ่จะใช้เรียกกันใน หมู่ผู้ผลิต Modem CPE ที่มักจะใช้กำหนดตั้งเป็นค่า default ของ โมเด็ม
    •  SNR Margin ให้มองว่าเหมือน (Buffer Zone) SNR Margin กับ SNR มีความสัมพันธ์กัน แต่ไม่ใช่สิ่งเดียวกันSNRM คือ ความแตกต่างระหว่าง Actual line SNR กับ SNR ที่ต้องการ Run ณ speed นั้น ๆตัวอย่างเช่น ถ้าสายเคเบิลต้องการ Run SNR 35 dB ที่ Speed 8 Mbps และ Actual line SNR = 41 dB ดังนั้น SNRM = 41-35 = 6 dB จะเป็นค่า Default ต่ำสุดที่ CPE ยอมให้ตั้งค่าได้ (หมายถึง ถ้า SNRM ต่ำกว่า 6 dB แสดงว่า Speed ไม่ Sync) ค่าที่เครื่อง Set ค่าให้ตั้ง SNRM ได้คือ 6, 9, 12, และ 15 dB ยิ่งค่า SNRM มาก ยิ่งดี คือ สัญญาณ Internet หลุดยาก 
  • ค่า Line Attenuation คือค่าการลดทอนของสัญญาณเมื่อเดินทางจาก DSLAM มาถึงโมเด็มในบ้านของผู้ใช้งาน หรือเรียกว่าค่าLoss ก็ได้ครับ 
    • บอกอัตราการสูญเสียสัญญาณจาก DSLAM มาสู่ DSL CPE ยิ่งมีค่าน้อยยิ่งดี ค่าน้อยแสดงให้เห็นว่ามี Loss ต่ำ หากสายโทรศัพท์ของบ้าน หรือที่ทำงานของเรา ห่างจากชุมสายมาก ค่า Line Attenuation ก็จะสูงตามไปด้วย
Line Attenuation
ต่ำกว่า 20 = rare, great copper lines, close to co/remote
20 - 30 = ยอดเยี่ยม ( excellent )
30 - 40 = ดีมาก very ( good )
40 - 60 = ปานกลาง ( average )
60 - 65 = แย่ ( poor )

ตัวอย่างการดูค่า DSL Line Status จาก Zyxel


สรุปได้อย่างสั้นสำหรับค่าของ SNR และ Attenuation ที่อยู่ในระดับที่เสถียร
  • SNR ไม่ควรต่ำกว่า 10 dB (เดซิเบล)
    • ค่า SNR ที่ต่ำผิดปกติ อาจเนื่องมากจากคุณภาพของสายโทรศัพท์
  • Line Attenuation ไม่ควรสูงกว่า 55 dB
    • ค่า Line Attenuation ที่สูงผิดปกติ อาจเกิดจากสัญญาณรบกวนในสายโทรศัพท์ เช่น ความชื้นหรืออยู่ไกล้แหล่งกำเนิดสัญญาณรบกวน เช่น มอเตอร์ไฟฟ้า หรือเกิดจากระยะทาง ที่ไกลเกินไปจากชุมสายโทรศัพท์ เช่น ไกลเกินระยะ 5.5 กิโลเมตรตามมาตรฐานของ ADSL
ถ้าเกิดค่า SNR และ Attenuation มีค่าตามมาตรฐานแล้วยังเกิดปัญหาดังกล่าวอยู่ ให้ลองตรวจสอบการใช้งานและการเชื่อมต่อภายในที่เป็น Internal LAN ครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง สายภายใน , กล่องรับสัญญาณ หรือแม้แต่ Splitter ครับ


ในกรณีที่มีค่า SNR Margin ต่ำ หรือมี Line Attenuation สูง ให้พิจารณาเรื่องดังต่อไปนี้
1. เดินสายโทรศัพท์ตามทางสายไฟบ้านหรือไม่ สายไฟแรงสูงที่อยู่ใกล้ๆ จะส่งผลให้เกิดสัญญาณรบกวน ( Noise) มากขึ้น
2. สายโทรศัพท์มาตรฐานหรือไม่ สายโทรศัพท์ที่ไม่ได้มาตรฐาน (เส้นลวดอาจมีขนาดเล็ก) จะทำให้การค่าความต้านทานสูงขึ้นและ Line Attenuation จะมีมากขึ้น
3. อุปกรณ์ต่อพ่วงของโทรศัพท์ เช่น POTS Splitter Micro filter โทรศัพท์ต่อพ่วง มีผลกระทบต่อทั้ง ปัจจัย ยิ่งมีอุปกรณ์ต่อพ่วงมาก ก็จะเกิดสัญญาณรบกวนและ Line Attenuation จะมีค่ามากขึ้น
4. เช็คจุดที่มีการเชื่อมต่อสายโทรศัพท์ ว่ามีการขันสายยึดแน่นเรียบร้อยหรือไม่
5. ตรวจเช็คกล่องดำว่ามีน้ำขัง หรือสายทองแดงมีอ๊อกไซต์เกาะอยู่หรือไม่ เพราะเป็นสาเหตุที่ทำให้ค่า SNR Margin ต่ำ
6. เช็คระยะทางจากชุมสายถึงกล่องดำของลูกค้า ว่าไกลจากชุมสายมากหรือไม่ หรืออยู่ปลายชุมสายหรือไม่ เพราะยิ่งไกลจากชุมสาย จะยิ่งทำให้ได้รับสัญญาณที่ต่ำรวมทั้งมีสัญญาณรบกวนเยอะขึ้น และลูกค้าจะไม่สามารถขอความเร็วที่สูงได้ จะทำให้ SNR Margin ต่ำลงแบบสุด ๆ ไม่มีความเสถียรของสัญญาณ
ในกรณีที่เช็คเบื้องต้นดังกล่าวแล้ว ยังมีค่าที่ผิดปกติอยู่ ต้องลองให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์มาตรวจเช็คสภาพสายโทรศัพท์ 


ขอบคุณข้อมูลจาก www.adslthailand.com

เทคนิคการคำนวณ Summary Route (Route Summarization)

วันนี้ผมจะมาพูดถึงวิธีการคำนวณ summary route และบอกเทคนิควิธีการคิดแบบง่ายๆ (รึเปล่า 555+) ก่อนอื่นนะครับ เราจะต้องเข้าใจเรื่อง IP Address ซะก่อนนะครับ ในหัวข้อนี้ผมจะไม่พูดถึงเรื่อง IP Address มากละกันครับ ไว้มีเวลาผมจะมาเขียนให้ทีหลังละกัน เพราะเรื่อง IP Address ค่อนข้างจะยาวพอสมควร ผมจะเน้นเรื่องที่ผมจะกล่าวถึงในบทความนี้ คือ การทำ summary route นะครับ


การทำ summary route เป็นการรวม routing entry ใน routing table หลายๆเส้น รวมเป็น routing entry เดียว



ดูจากรูปแล้วจะพอเข้าใจขึ้นนะครับ Router A มี  3 routing entry  ซึ่ง Router A จะเก็บเส้นทางเหล่านี้ไว้ใน routing table และส่งเส้นทางเหล่านี้ออกไปหา Router B ในกรณีนี้ ถ้า Router A ไม่ได้ทำ summary route ไว้ Router B จะรับ routing entry ที่มาจาก Router A 3 entryแต่ถ้า Router A มีการทำ summary route ไว้ Router A จะทำการรวมเ 3 routing entry เป็น 1 entry และส่งไปให้ Router B การทำ route summarization ให้มีประสิทธิภาพจะต้องมีการ design IP Address ที่ดีด้วย เช่นการทำ VLSM เอาแค่เบื้องต้นนะครับ จะได้เข้าวิธีการคำนวณ summary route กัน ^_^


ก่อนอื่นเลยเราจะต้องใช้ Magic Box ตัวเดียวกับที่เราใช้มาคำนวณ IP Address นั่นแหละครับ ถ้าเรายังจำไม่ได้ ให้เราเขียนตารางขึ้นมาก่อนครับ แต่ในบทความของ summary route ผมเขียนเท่านี้ละกันครับ

128
64
32
16
8
4
2
1

อ่ะ ทีนี้ เราลองมาดูการทำ summary แบบดั้งเดิมกันก่อนละกันครับ ลองมาดูกัน

แบบดั้งเดิมเลยก็คือ แปลงเป็นฐาน 2 แล้วนำชุด IP ที่ต้องการทำ summary มาเทียบกันจากซ้ายไปขวา ให้สนใจบิตที่เหมือนกัน
192.168.0.0/24  192.168.000000|00.00000000
192.168.1.0/24  192.168.000000|01.00000000
192.168.2.0/24  192.168.000000|10.00000000
192.168.3.0/24  192.168.000000|11.00000000
ด้านขวาที่แบ่งไว้ให้แทนด้วยศูนย์ 192.168.000000|00.00000000
เมื่อผมนำมาเขียนใหม่จะได้ 192.168.0.0
ส่วน subnet mask หาได้จากตัวเลขของ IP ที่เราแบ่งไว้ โดยให้ด้านซ้ายเท่ากับ 1 ด้านขวาเท่ากับ 0
192.168.000000|00.00000000  192.168.0.0
255.255.111111|00.00000000  255.255.252.0

ฉะนั้นเมื่อผมทำการ summary IP Address ชุดด้านบนแล้ว 4 ชุด ออกมาเป็น 1 ชุด ได้ดังนี้

192.168.0.0/22


แต่ผมมีวิธีคิดไวๆมาฝากครับ เดี๋ยวไปดูกันเลย

ผมใช้ IP ชุดเดิมละกันนะครับ
192.168.0.0/24
192.168.1.0/24
192.168.2.0/24
192.168.3.0/24
และผมใช้ตาราง Magic Box

128
64
32
16
8
4
2
1
 
มาเริ่มกันเลยครับ
  • ผมจะดูว่า IP ชุดนี้ Octet ไหนที่มีค่าตัวเลขที่ไม่เหมือนกัน ในข้อนี้คือ Octet ที่ 3 ผมก็จะนับจากตางราง เมื่อเราสนใจที่ Octetที่ 3  เราก็จะนับเริ่มที่ /17
    (Octet ที่ 1 = /1 - /8 , Octet ที่ 2 = /9 - /16 , Octet ที่ 3 = /17 - /24 , Octet ที่ 4 = /25 - /32) 
    /17
    /18
    /19
    /20
    /21
    /22
    /23
    /24
    128
    64
    32
    16
    8
    4
    2
    1
    • ผมจะดูว่ามี Network กี่ชุดที่เราจะมาทำ summary ในโจทย์นี้เรามี 4 ชุด ใช่ไหมครับ ผมจะเอามาดูในตารางว่า ช่องไหน หรือ สแลช (/) เท่าไหร่ ที่มีค่าเท่ากับ 4 ในที่นี้ช่องที่มีค่าเท่ากับ 4 คือ /22 
    • จากนั้นมาดูว่าที่ /22 ที่มีค่าเท่ากับ 4 นั้น มีตัวเลขอะไรบ้างที่อยู่ในกลุ่มนี้ เริ่มนับตั้งแต่ 0 เลยครับ
      0-3 , 4-7 , 8-11 , 12-15 , 16-19 , 20-23 ……. ไปเรื่อยๆ จะเห็นว่าแต่ละกลุ่มจะมี 4 เบอร์ 
      (ถ้าโจทย์ข้อนี้มี 8 ชุด IP เราก็นับ ให้แต่ละกลุ่มมี 8 เบอร์ เช่น 0-7 , 8-11 , 12-19 , 20-27 ……)
    • จะเห็นว่ากลุ่มแรก 0-3 ตรงกับชุดที่โจทย์ให้มา (ดูเฉพาะ Octet ที่ 3 นะครับ เพราะเรากำลังสนใจ Octet ที่ 3 อยู่)
    192.168.0.0
    192.168.1.0
    192.168.2.0
    192.168.3.0
    • เราจึงเอา IP ชุดแรกสุดมาเขียน ตามด้วย สแลช (/) ที่หาได้จากข้อ 2 คือ /22 จะได้คำตอบครับคำตอบ คือ 192.168.0.0/22
    เพราะฉะนั้นผมสรุปได้ว่า summary route ของชุด IP เหล่านี้ คือ 192.168.0.0/22
    192.168.0.0/24
    192.168.0.0/22
    192.168.1.0/24
    192.168.2.0/24
    192.168.3.0/24


    มาลองดูอีกตัวอย่างนึงนะครับ
    192.168.2.0/24
    192.168.3.0/24
    192.168.4.0/24
    192.168.5.0/24
    ทำตามสเปเดิมเลยครับ ลองดูกัน
    • ผมจะดูว่า IP ชุดนี้ Octet ไหนที่มีค่าตัวเลขที่ไม่เหมือนกัน ในข้อนี้คือ Octet ที่ 3 ผมก็จะนับจากตางราง เมื่อเราสนใจที่ Octetที่ 3  เราก็จะนับเริ่มที่ /17(Octet ที่ 1 = /1 - /8 , Octet ที่ 2 = /9 - /16 , Octet ที่ 3 = /17 - /24 , Octet ที่ 4 = /25 - /32)
    /17
    /18
    /19
    /20
    /21
    /22
    /23
    /24
    128
    64
    32
    16
    8
    4
    2
    1
    • ผมจะดูว่ามี Network กี่ชุดที่เราจะมาทำ summary ในโจทย์นี้เรามี 4 ชุด ใช่ไหมครับ ผมจะเอามาดูในตารางว่า ช่องไหน หรือ สแลช (/) เท่าไหร่ ที่มีค่าเท่ากับ 4 ในที่นี้ช่องที่มีค่าเท่ากับ 4 คือ /22 
    • จากนั้นมาดูว่าที่ /22 ที่มีค่าเท่ากับ 4 นั้น มีตัวเลขอะไรบ้างที่อยู่ในกลุ่มนี้ เริ่มนับตั้งแต่ 0 เลยครับ 0-3 , 4-7 , 8-11 , 12-15 , 16-19 , 20-23 ……. ไปเรื่อยๆ จะเห็นว่าแต่ละกลุ่มจะมี 4 เบอร์ 
      (ถ้าโจทย์ข้อนี้มี 8 ชุด IP เราก็นับ ให้แต่ละกลุ่มมี 8 เบอร์ เช่น 0-7 , 8-15 , 16-23 , 24-31 ……) 
    • จะเห็นว่าโจทย์ข้อนี้ไม่เหมือนกับข้อที่ก่อนแล้วล่ะครับ เพราะกลุ่ม IP ตามข้อ 3 กลุ่มแรก 0-3 ไม่ครอบคลุมชุด IP ที่เราต้องการจะทำ summary ซะแล้ว กลุ่มที่ 2 คือ 4-7 ก็ไม่ครอบคลุมเช่นเดียวกัน (ดูเฉพาะ Octet ที่ 3 นะครับ เพราะเรากำลังสนใจ Octetที่ 3 อยู่เพราะฉะนั้นเราจึงต้องขยายเพิ่มจาก 4 เป็น 8 (ตามตารางลองดูนะครับ ถ้าเราใช้ 8 เราจะได้ตามนี้ 0-7 , 8-15 , 16-23 , 24-31 …….. 
    • ทีนี้เราจะเห็นว่ากลุ่มแรกคือ 0-7 จะครอบคลุมชุด IP ของเราแล้ว (ดูเฉพาะ Octet ที่ 3 นะครับ เพราะเรากำลังสนใจ Octet ที่ 3 อยู่)
    192.168.2.0
    192.168.3.0
    192.168.4.0
    192.168.5.0
    • ยังไม่จบครับ เพราะข้อ 4 เราขยับจาก 4 ไปเป็น 8 แล้วนะครับ เพราะฉะนั้นเราจะตอบ /22 ไม่ได้แล้ว เราจึงต้องดูตารางใหม่อีกที จะได้ /21 ครับ ไม่ใช่ /22 ละ
      คำตอบ คือ 192.168.0.0/21
    เพราะฉะนั้นผมสรุปได้ว่า summary route ของชุด IP เหล่านี้ คือ 192.168.0.0/21 (จะสังเกตุว่า มันจะรวมถึง ชุด IP 0-1 และ 6-7 ไปด้วยครับ)
    192.168.0.0/24
    192.168.0.0/22
    192.168.1.0/24
    192.168.2.0/24
    192.168.3.0/24
    192.168.4.0/24
    192.168.5.0/24
    192.168.6.0/24
    192.168.7.0/24


    เย้ !!! จบแล้วครับ 55+ อย่างที่ผมบอกนะครับว่า อย่างน้อยๆ เราจะต้องมีความเข้าใจเรื่อง IP Address มาก่อน รวมถึง VLSM ด้วยนะครับ จะสามารถทำให้เราเข้าใจได้ง่ายขึ้นครับ ถ้ามีในส่วนไหนผมอธิบายได้ไม่ดีพอ หรือ ไม่เข้าใจ ก็ต้องขออภัยด้วยทุกท่านด้วยนะครับ การบรรยายออกมาเป็นภาษาเขียนผมว่ามันยากอยู่เหมือนกัน ยิ่งเป็นเรื่อง IP แล้วด้วย ^_^” ยังไงแล้ว ผมก็หวังว่าคงจะมีประโยชน์นะครับ และผมยินดีน้อมรับคำติชมทุกประการครับ แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าคร้าบบบ


    By ReFeeL